งานประกวดหนูน้อยนพมาศ ประจำปี 2563
วันนี้ (31 ต.ค. 63) เวลา 14.45 น.นายบรรลือ กุลละวณิชย์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดงานประกวดหนูน้อยนพมาศ ประจำปี 2563 โดยมีนางสาวหทัยรัตน์ โพธิ์เกตุ ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา นายบรรจง บัญฑูรประยุกต์ นายกสมาคมดนตรีพัทยา นายละเอียด บุญเจริญสมาชิกสโมสรไลออนส์พัทยาตากสินและชมรมลีลาศศรีราชา และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมกิจกรรม ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา
สโมสรไลออนส์ พัทยาตากสิน ร่วมกับ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 พัทยา และกลุ่มเด็กบูรพาคิดส์ กำหนดจัดการประกวดหนูน้อยนพมาศ ขึ้น ภายใต้โครงการ “อนุรักษ์และสืบสานประเพณีไทย”ในช่วงเทศกาลลอยกระทง เพื่อเป็นการเปิดเวทีให้แก่เยาวชนได้กล้าแสดงความสามารถ และยังเป็นการร่วมกันอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทย ให้คงอยู่ต่อไปโดยภายในงานนอกจากจะมีการประกวดหนูน้อยนพมาศแล้ว ยังมีกิจกรรมอีกมากมาย อาทิ การแสดงร้องเพลง การแสดงฟ้อนรำไทย การแสดงเต้นจากน้องๆ รวมไปถึงการลอยกระทงในทะเลหาดจำลองหน้า ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมลอยกระทงในรูปแบบใหม่ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในเมืองพัทยา ที่ได้จัดกิจกรรมสืบสานประเพณีไทย เพื่อให้ประชาชนพื้นที่ได้รับความเพลิดเพลินจากการรับชมการประกวดและการแสดงต่างๆ และยังเป็นการช่วยกระตุ้น เศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองพัทยา พร้อมเป็นสีสันช่วงเทศกาลลอยกระทงอีกทางหนึ่งด้วย
เมืองพัทยาจัดประชุมกลุ่มย่อยผู้ประกอบการภาคธุรกิจและเอกชนครั้งที่ 2
วันนี้ (30 ต.ค. 63) เวลา 10.00 น. นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประธานประชุมกลุ่มย่อย ผู้ประกอบการภาคธุรกิจและเอกชนครั้งที่ 2 ระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อพิจารณาการวางและจัดทำผังเมืองรวมเมืองบางละมุง จังหวัดชลบุรี จากประชาชนและทุกภาคส่วน โดยมีนายรณกิจ เอกะสิงห์ นายบรรลือ กุลละวณิชย์ รองนายกเมืองพัทยา นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร สมาชิกสภาเมืองพัทยา ในฐานะประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม นายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ผู้แทนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ ผู้แทนชุมชน เข้าร่วมประชุมฯ เพื่อร่วมกันพิจารณาฯ ณ ห้องประชุมทัพพระยา ศาลาว่าการเมืองพัทยา
ตามที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้จัดทำโครงการวางและจัดทำผังเมืองรวมเมืองบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องในด้านการใช้ประโยชน์ที่ดิน การคมนาคมและขนส่งการสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างหรือพัฒนาเมืองให้เติบโตอย่างเหมาะสม รองรับเข้าสู่ EEC โดยมีบริษัท ออโรส จำกัด เป็นผู้ดำเนินการฯ ซึ่งมีพื้นที่ในเขตผังเมืองรวม โดยครอบคลุมพื้นที่อำเภอบางละมุง ประกอบด้วยพื้นที่ 8 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ เมืองพัทยา เทศบาลเมืองหนองปรือ เทศบาลตำบลหนองปลาไหล เทศบาลตำบลโป่ง อำเภอบางละมุง เทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ยเทศบาลตำบลห้วยใหญ่ และองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว นั้น จากการจัดผังเมืองรวมดังกล่าว ส่งผลให้กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ในพื้นที่เมืองพัทยา ได้รับผลกระทบ จากการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ดินการใช้ประโยชน์ อาทิ กลุ่มธุรกิจประเภทโรงแรม ต้องอยู่ในติดกับพื้นที่ถนนที่มีความกว้าง 12 เมตร หากอยู่ใจกลางเมืองต้องอยู่ในติดกับพื้นที่ถนนที่มีความกว้าง 16 เมตร ซึ่งการกำหนดดังกล่าวไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ โดยในวันนี้ เป็นการประชุมหารือร่วมกันเพื่อนำเสนอแนวคิด ข้อกำหนดร่างแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินในอนาคต รวมทั้งรับฟังปัญหา ความต้องการและแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ผังเมืองรวมฯ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเอกชน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยจะรวบรวมผลในประเด็นต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อนำไปประกอบการวางและจัดทำผังเมืองฯให้เกิดความเหมาะสมและเป็นไปในทิศทางเดียวกันต่อไป
นายกเมืองพัทยา นำร่อง 7 โครงการ เพื่อยกระดับพัทยา เป็นมหานครระดับโลก ที่มีความน่าอยู่ – น่าเที่ยว – น่าลงทุน อย่างยั่งยืน
วันนี้ (28 ต.ค.63) เวลา 11.00 น. นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา แถลงแผนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนเมืองพัทยา ณ โรงแรมเดอะเซนต์รีจิส กรุงเทพฯ นำเสนอ 7 โครงการ พัฒนาเมืองพัทยาโฉมใหม่ขึ้นชั้นมหานครระดับโลก
ตลอดระยะเวลา 25 เดือนของการทำหน้าที่นายกเมืองพัทยา ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหา ขจัดความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะปัญหาขยะ ได้ว่าจ้างเอกชนให้เข้ามารับเหมารับผิดชอบดูแลเก็บขยะอย่างครบวงจร ตั้งแต่จัดเก็บไปจนถึงการกำจัด ขณะที่ปัญหาน้ำท่วมซึ่งบรรเทาไปได้แล้วประมาณ 80% โดยการปรับปรุงระบบระบายน้ำที่มีอยู่เดิมให้มีขีดความสามารถในการระบายน้ำได้ดีขึ้นเร็วขึ้น ทำให้น้ำที่เคยท่วมขังนานเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงเหลือไม่เกิน 45 นาที ส่วนปัญหาอาชญากรรมเราแก้ไขด้วยโครงการฟ้าทะลายโจร โครงการฟ้าทะลายโจร คือ ตู้สีฟ้าที่นำไปติดตั้งในชุมชนซึ่งมีความเสี่ยงหรือความเปราะบางต่อปัญหาอาชญากรรมตามคำแนะนำของคณะกรรมการชุมชนแต่ละชุมชน ซึ่งปัจจุบันมีการติดตั้งรวม 9 จุด ใน 8 ชุมชน นอกจากนี้ยังได้วางแผนงานและโครงการที่มุ่งมั่นดำเนินการต่อไปในปี 2564 ต่อเนื่องไปถึงปี 2565 โดยการเตรียมแผนงานและโครงการที่จะพัฒนาเมืองพัทยาไปสู่ความเป็น “นีโอพัทยา” เพื่อทำให้พัทยาเป็นมหานครที่น่าเที่ยว – น่าอยู่อาศัยและน่าลงทุน จำนวน 7 โครงการ อาทิ
เมืองพัทยาจัดกิจกรรมนิทรรศการรณรงค์ป้องกันปัญหายาเสพติด ในโรงเรียน สร้างความตระหนักรู้ถึงพิษภัยและโทษของยาเสพติด
วันนี้ ( 28 ต.ค.63) เวลา 09.30 น.นายบรรลือ กุลละวนิชย์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดกิจกรรมนิทรรศการรณรงค์ป้องกันปัญหายาเสพติดในโรงเรียนและอบรมการสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติดเยาวชนในโรงเรียน โดยมีพ.ต.ต.จีรวัฒน์ สุคนธทรัพย์ หัวหน้าฝ่ายเทศกิจ รักษาการผู้อำนวยการส่วนรักษาความสงบเรียนร้อยและความมั่นคง นายวิสิฐศักดิ์ วงษ์วรชาติ หัวหน้าศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหายาเสพติด ผู้บริหารสถานศึกษา และนักเรียน เข้าร่วมพิธีเปิดฯ ณ วัดโพธิสัมพันธ์
ปัญหายาเสพติดยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของทรัพย์สิน ทั้งยังกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยา เป็นสาเหตุที่จะก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ ปัญหาครอบครัว ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินตามมา ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดยังไม่ได้รับการจัดการที่เหมาะสม ปัญหาดังกล่าวจึงยังคงอยู่และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่
ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหายาเสพติดเมืองพัทยาจึงได้จัดกิจกรรมนิทรรศการรณรงค์ป้องกันปัญหายาเสพติดในโรงเรียน และอบรมการสร้างภูมิคุ้มกันเยาวชนในโรงเรียน มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนโรงเรียนในสังกัดเมืองพัทยาทั้งหมด 11 โรงเรียน
ซึ่งการอบรมในครั้งนี้มีนางสาวเตชิตา รัตนกิตติกร เป็นวิทยากร อบรมเสริมรู้ความเกี่ยวกับ ชนิดของยาเสพติด พ.ร.บ.ยาเสพติด เทคนิคและวิธีการสร้างความปลอดภัยจากยาเสพติดในโรงเรียน เพื่อเป็นการร่วมกันรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้นักเรียนได้ตระหนักถึงพิษภัยและโทษของยาเสพติด มีความรู้ ความเข้าใจและมีส่วนร่วมกิจกรรม นำไปสู่การปฏิบัติ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอบายมุขได้อย่างถูกต้องทั้งตนเองและชุมชน เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายนักเรียนแกนนำป้องกัน เฝ้าระวัง ดูแล การแพร่ระบาดของยาเสพติดในสถานศึกษาอีกทางหนึ่งด้วย
https://www.facebook.com/259115847432500/posts/3888445447832837/?d=n
สำนักการสาธารณสุขเมืองพัทยา ลงพื้นที่ให้บริการคลินิกอดบุหรี่เคลื่อนที่
เมื่อวันที่(26 ต.ค.63)เวลา 13.30 น.ฝ่ายป้องกันและบำบัดสารเสพติด ส่วนควบคุมโรค สำนักการสาธารณสุข นำโดยนางวิลัยวรรณ ผู้เลื่องลือ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบำบัดสารเสพติด และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ให้บริการคลินิกอดบุหรี่เคลื่อนที่ โดยการให้ความรู้ในโทษและพิษภัยจากการสูบบุหรี่ ตรวจวัดสมรรถภาพปอด ตรวจวัดระดับนิโคตินทางลมหายใจ และอื่นๆ ให้กับพนักงานในสถานประกอบการ ณ โรงแรมสยามเบย์ชอร์ รีสอร์ทพัทยา
การประชุมใหญ่สามัญ กองทุนสวัสดิการชุมชนเมืองพัทยา ประจำปี 2563 และพิธีมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ
วันนี้(27 ต.ค.63) เวลา 10.00 น. นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประธานมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติพร้อมเงินรางวัลเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับสมาชิกที่กำลังศึกษาอยู่ จำนวน 26 ราย โดยมีนายบรรลือ กุลละวณิชย์ รองนายกเมืองพัทยา ประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2563 กองทุนสวัสดิการชุมชนเมืองพัทยา ซึ่งมีนายศราวุธ บรอฮีมี ประธานกองทุนสวัสดิการชุมชน เมืองพัทยา กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ ณ ห้องทัพพระยา ศาลาว่าการเมืองพัทยา
กองทุนสวัสดิการชุมชนเมืองพัทยาได้ดำเนินการจัดตั้งขึ้นเพื่อสร้างหลักประกันความมั่นคงในคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนทุกเพศทุกวัยตั้งแต่เกิดจนถึงตายเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของประชาชนที่สมัครใจและมีความประสงค์ที่จะดูแลกันและกันบนพื้นฐานความเอื้ออาทรต่อกันร่วมคิดร่วมกันสร้างระบบร่วมกันบริหารจัดการและร่วมกันรับผลประโยชน์กองทุนสวัสดิการชุมชนเมืองพัทยาจึงเป็นกองทุนที่ทุกคนร่วมเป็นเจ้าของในรูปแบบของการออมเงินวันละบาทของสมาชิกทุกคนซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการจัดการสวัสดิการสังคม
ปัจจุบันกองทุนสวัสดิการชุมชนเมืองพัทยาได้มีการขับเคลื่อนในรูปแบบของภาคประชาชนบริหารจัดการและจัดสวัสดิการการดูแลสมาชิกบนพื้นฐานที่สอดคล้องวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของตนเองและสิ่งสำคัญคือกองทุนสวัสดิการชุมชนเมืองพัทยาได้มีการช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในระบบเศรษฐกิจพอเพียงเป็นกระบวนการของชุมชนที่มุ่งเน้นการจัดการตนเองการให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันฉันญาติมิตรให้ความรักความเอื้ออาทรต่อกันให้การดูแลเอาใจใส่กันและกันทำให้การจัดสวัสดิการมิใช่เพียงแค่การจ่ายเงินเท่านั้น แต่สวัสดิการเป็นทั้งกำลังใจกำลังทรัพย์และเป็นกระบวนการของการให้อย่างมีคุณค่ารับอย่างมีศักดิ์ศรีมีส่วนร่วมเป็นธรรมและเท่าเทียมถือเป็นความสำเร็จของการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวมอย่างแท้จริงส่งผลให้ประชาชนเห็นคุณค่าและเกิดศรัทธาในการปฏิบัติอันเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิต
เมืองพัทยาเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีหน้าที่ในการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานกองทุนให้มีการขับเคลื่อนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์จึงได้จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 เพื่อให้กองทุนสวัสดิการชุมชนเมืองพัทยาได้จัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการกองทุนสวัสดิการชุมชนแทนชุดเดิมที่หมดวาระเพื่อให้กองทุนได้มีการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องในการบริหารจัดการกองทุนได้อย่างมีศักยภาพเกิดการบริหารจัดการที่ดีเอื้อต่อการจัดสวัสดิการและสามารถดูแลสมาชิกได้อย่างครอบคลุมและยั่งยืน
รวมทั้งได้จัดให้มีพิธีมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติพร้อมเงินรางวัล จำนวน 26 ราย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับสมาชิกที่กำลังศึกษาอยู่ต่อไปอีกด้วย
ประชุมคณะทำงานประสานงานการจัดตั้งและขับเคลื่อนสมัชชาสุขภาพเมืองพัทยาครั้งที่ 2 /2563
วันนี้ (26 ต.ค. 63) เวลา 13.00 น. นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดและมอบแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม ภายใต้สถานการณ์ COVID- 19 โดยมีนายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ผู้ทรงคุณวุฒิและที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ในฐานะประธานคณะทำงานประสานงานการจัดตั้งและขับเคลื่อนสมัชชาสุขภาพเมืองพัทยา นายแพทย์ ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ นายสุรพัศโยธิน บูรณานนท์ กรรมการสุขภาพ เมืองพัทยา คณะผู้บริหารเมืองพัทยา หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน และภาคีเครือข่ายสมัชชาสุขภาพเมืองพัทยา เข้าร่วมประชุมฯ ณ ห้องประชุมทัพพระยา ศาลาว่าการเมืองพัทยา
ตามเจตนารมณ์พระราชบัญญัติสุขภาพแห่ชาติ พ.ศ. 2550 ในการจัดและสนับสนุนการจัดสมัชชาสุขภาพ เป็นกระบวนการที่ให้ประชาชนและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องได้ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเรียนรู้อย่างสมานฉันท์ เพื่อนำไปสู่การเสนอแนะนโยบายสาธารณะ เพื่อสุขภาพหรือความมีสุขภาพดีของประชาชน โดยจัดให้มีการประชุมอย่างเป็นระบบและอย่างมีส่วนร่วม ประกอบกับปัจจุบันได้มีประกาศคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดและการสนับสนุนการจัดสมัชชาสุขภาพเฉพาะพื้นที่ และสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น พ.ศ.2563 ซึ่งได้ยกเลิกฉบับเดิม (พ.ศ. 2555) และกำหนดให้ครอบคลุมสมัชชาสุขภาพจังหวัด สมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร และสมัชชาสุขภาพเมืองพัทยาด้วยนั้น
ในการนี้ คณะอนุกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชนจังหวัดชลบุรี และเมืองพัทยาได้เห็นควรประสานการขับเคลื่อนแผนรวมพลังพลเมืองตื่นรู้ช่วยชาติสู้ภัย COVD-19 ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคประชาชนและทุกภาคส่วน และให้บรรลุตามเจตนารมณ์กฎหมายดังกล่าว จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานประสานงานการจัดตั้งและขับเคลื่อนสมัชชาสุขภาพเมืองพัทยาขึ้น และได้ดำเนินการจัดประชุมคณะทำงานฯ เพื่อรับทราบและพิจารณาแนวทางการดำเนินการ ตลอดจนยกร่างองค์ประกอบคณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพเมืองพัทยา (คจ.สผ.) เพื่อเตรียมประชุมชี้แจงและสรุปองค์ประกอบ นำเสนอคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) แต่งตั้งคณะทำงานต่อไป เพื่อให้การดำเนินงานสมัชชาสุขภาพเมืองพัทยา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพที่ยั่งยืนต่อไป
https://www.facebook.com/259115847432500/posts/3882942928383089/
พสกนิกรชาวอำเภอบางละมุง ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต 23 ตุลาคม
วันที่ (23 ต.ค.63) เวลา 08.00 น. ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอบางละมุง นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง เป็นประธานใน พิธีบำเพ็ญกุศลและพิธีน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เรือตรีปราโมทย์ ทับทิม รองปลัดเมืองพัทยา รักษาราชการแทนปลัดเมืองพัทยา หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนเหล่ากาชาด หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนทุกหมู่เหล่า เข้าร่วมพิธีฯ โดยพร้อมเพรียง
โดยในช่วงเช้าเวลา 08.30 น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์จำนวน 10 รูปขึ้นนั่งอาสนะสงฆ์ นายอำเภอบางละมุงประธานในพิธี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ต่อจากนั้นหัวหน้าส่วนราชการตั้งแถวด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยประธานในพิธี
ข้าราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชน พร้อมพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ ประธานในพิธีจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พร้อมกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากนั้นพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์จำนวน 10 รูปสดับปกรณ์ ประธานในพิธีและคณะข้าราชการถวายเครื่องไทยธรรม และทอดผ้าไตรจำนวน 10 ไตร พระสงฆ์อนุโมทนาถวายอดิเรก ประธานในพิธีกรวดน้้ำและกราบลาพระรัตนตรัย
ซึ่งการจัดพิธีฯดังกล่าวในวันนี้ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี ตรงกับวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5หรือ สมเด็จพระปิยมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ปวงชนชาวไทยเคารพรักเป็นอย่างยิ่ง ตลอดระยะเวลายาวนานถึง43 ปี ที่ทรงครองสิริราชสมบัติ พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาตินานัปการ พระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระองค์ ได้แก่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการเลิกทาส การปฏิรูประบบราชการ การพัฒนาการศึกษา การป้องกันประเทศจากการเป็นอาณานิคมของต่างชาติ การกำหนดมาตรฐานระบบเงินตรา การกำหนดระบบเขตการปกครอง การสร้างระบบสาธารณูปโภค เช่น การรถไฟ การไปรษณีย์ และการโทรศัพท์ เป็นต้น ทรงบำเพ็ญคุณประโยชน์แก่ชาติอย่างใหญ่หลวง ตลอดรัชสมัยของพระองค์ พระองค์ทรงคำนึงถึงทุกข์สุขของราษฎร และประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่าประโยชน์สุขส่วนพระองค์ ทรงรับพระราชภาระอันหนักยิ่งทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร ในรัชสมัยของพระองค์เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในบ้านเมืองของเราที่สร้างความเจริญก้าวหน้า ให้ทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ
เปิดงานต้อนรับความสุข สีสันตะวันออก ครั้งที่ 11“ สีสัน EEC ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา
วันนี้ ( 23 ต.ค.63) เวลา 18.30 น. นายธรรมศักดิ์ รัตนธัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดงานเทศกาลสีสันตะวันออก สีสัน EEC ครั้งที่ 11 โดยมีนายธนศร ดอกเดื่อ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ฯ ร่วมด้วย นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เรือตรีปราโมทย์
ทับทิม รองปลัดเมืองพัทยารักษาราชการแทนปลัดเมืองพัทยา นายพงษ์อนันต์ จันทร์ไพร ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง นางกัญญ์ชลา สุขิตกูล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และสื่อมวลชน ร่วมเปิดงานในครั้งนี้ ณ ลานซันเคน ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช
เทศกาลสีสันตะวันออก สีสัน EEC” ครั้งนี้เป็นการรวมตัวครั้งใหม่ของกลุ่มจังหวัดในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ประกอบด้วยจังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ภายใต้คอนเซ็ปต์ ” สีสัน EEC น่ากินน่าเที่ยว” ระหว่างวันที่ 22-25 ตุลาคมนี้ ณ ริมชายหาดพัทยา ตั้งแต่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีชถึงพัทยาซอย 11 โดยคงเอกลักษณ์สำคัญของงานเทศกาลสีสันตะวันออก คือการรวมตัวของผู้ประกอบการระดับคุณภาพและมีชื่อเสียงของภาคตะวันออก มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ โซนสีสันน่ากินของกินสุด POP รวบรวมร้านดังสไตล์ Street Food มาให้ลิ้มรส โซนสีสันน่าเที่ยว เลือกซื้อแพคเกจแหล่งท่องเที่ยวและที่พักในราคาสุดคุ้ม และโซนของดีท้องถิ่นสุด POP ซื้อสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะภาคตะวันออกและโซน Very Popular ชมการสาธิตหรือกิจกรรมพิเศษจากผู้ประกอบการในพื้นที่ พร้อมสนุกไปกับมินิคอนเสิร์ตจาก ลำเพลิน วงศกร Musketeers เอิ๊ต ภัทรวี และแบม ไพลิน ที่มาสร้างสีสันให้กับงานครั้งนี้
นายธรรมศักดิ์ รัตนธัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า
การจัดงานเทศกาลสีสัน EEC ในครั้งนี้ เป็นการแสดงถึงศักยภาพของกลุ่มภาคตะวันออก EEC และขอขอบคุณในการจัดงานในครั้งนี้ ที่ได้รับร่วมมือร่วมใจเป็นอย่างดีจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสมาคมและชมรมต่างๆ ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ผู้ประกอบการร้านค้า พร้อมทั้งให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังเมืองพัทยาเสมือนเป็นเจ้าบ้านที่ดี อีกทั้งยังเป็นการสร้างอาชีพและลดปัญหาการว่างงานของคนในท้องถิ่นในสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจปัจจุบัน ตลอดจนสร้างความเชื่อมโยงทางการท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพอันจะนำให้การจัดงานดังกล่าวและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยพัฒนาเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคตต่อไป”
เมืองพัทยาขอเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยว เข้าร่วมงาน สีสันตะวันออก ครั้งที่ 11“ สีสัน EEC ในระหว่างวันที่ 22- 25 ตุลาคม 2563 ณ ริมหาดพัทยา (ตั้งแต่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีชถึงพัทยาซอย 11)
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ fb/สีสันตะวันออก หรือ facebook.com/Colorsoftheeastbyim
https://www.facebook.com/259115847432500/posts/3875109189166463/